หางบรอรักษาผู้สูงวัย ตั้งไข่รีดภาษีเพื่อสุขภาพ-สิ่งแวดล้อม

สุขภาพ นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า ในปีงบประมาณ 2566 จะศึกษาการกำหนดอัตราการจัดเก็บภาษีเพื่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ดังนี้ 1.น้ำมันไบโอเจ็ท 2.ไบโอพลาสติก 3.แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า 4.เหล้า-เบียร์ มีแอลกอฮอล์ 0% 5.บุหรี่ไฟฟ้า และ 6.ภาษีคาร์บอน และจะมีข้อสรุปชัดเจนในปีนี้ ส่วนจะจัดเก็บเมื่อใด ต้องรอเวลาการกำหนดพิกัดอัตราภาษีที่เหมาะสมก่อน โดยปีงบประมาณ 2565 นี้ มีเป้าหมายการจัดเก็บรายได้รวม 567,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ ปัจจุบันกรมสรรพสามิตจัดเก็บภาษีแบตเตอรี่อยู่แล้ว 8% แต่หากปรับโครงสร้างภาษีจะเป็นในรูปแบบแบตเตอรี่ที่นำมารีไซเคิลได้ อาจไม่เก็บภาษี หากรีไซเคิลไม่ได้ จัดเก็บอัตราภาษีแพง เช่นเดียวกับภาษีเหล้า-เบียร์ มีปริมาณแอลกอฮอล์สูงก็เก็บภาษีสูง แต่หากไม่มีแอลกอฮอล์หรือเบียร์-เหล้า 0% ก็จัดเก็บภาษีต่ำ ภายใต้หลักการสินค้าทำลายสิ่งแวดล้อมก็ต้องเก็บภาษีสูง รักษาสิ่งแวดล้อม เก็บภาษีต่ำ เช่นเดียวกับภาษีความเค็มมาก และความหวานมากก็ต้องเก็บภาษีสูง หวานน้อยเค็มน้อย ก็เก็บภาษีต่ำ เพื่อรักษาสุขภาพคนไทย

“ในแต่ละปีรัฐบาลต้องจัดสรรงบ เพื่อการรักษาสุขภาพของประชาชนมากกว่า 100,000 ล้านบาท ปัจจุบันคนไทยป่วยเป็นโรคเบาหวานกว่า 5 ล้านคน มีผู้ป่วยฟอกไต 100,000-200,000 คน และมีผู้ป่วยโรคปอด โรคตับแข็งอีกจำนวนมาก ประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย ที่รัฐบาลจะต้องใช้งบเข้าไปดูแล”